ถ้าใครติดตามอุ้มมาได้สักพัก จะทราบว่า การซื้อพวก Gadgets เป็นเรื่องที่ไม่ต้องตัดสินใจมากนัก แค่ดูหน่อยๆ ชอบก็ซื้อเลย แต่สำหรับเจ้า Surface Pro 4 ตัวนี้ เรียกได้ว่าไปอยู่ที่ Banana IT และ Power Buy บ่อยมากเลยค่ะ ไปยืนเล่นทุกสาขา จนคนที่ไปด้วย และพนักงาน เริ่มทำหน้าเอือม 555 ก็คนมันไม่ชัวร์ รีวิวเมืองนอกก็ไม่ได้ตอบสิ่งที่อุ้มกังวลนัก ในรีวิวนี้ อุ้มเลยอยากจะมาช่วยคลายความกังวล ของคนอยากได้ Tablet ที่เป็นเหมือนคอมเครื่องหนึ่ง กับ รีวิว Surface Pro 4 รุ่น Intel Core M3 RAM 4 GB ความจุ 128 GB แบบจัดเต็ม ไปติดตามกันเลยค่ะ

2

WISH LIST

  • Tablet ที่เอาไว้อ่านข่าว และเขียนรีวิวได้เป็นอย่างดี
  • อยากใช้งาน Photoshop ทำภาพประกอบรีวิว
  • ทำงานนอกสถานที่ได้ เวลาไปเที่ยว
  • Tablet ที่ไม่ปวดตา ปวดหัว
  • ตัวเครื่องเสียงไม่ดัง ไม่หนักมากนัก
  • มี Keyboard Case
  • มีช่องเสียบ USB และเสียบออกจอ Projector ได้
  • ถือแล้วดูน่าเชื่อถือ ใช้งานได้ยาวพอควร

IMPRESSIONS

3

สำหรับเจ้า Surface Pro 4 อาจดูไม่ได้ต่างกับ Surface Pro 3 มากนัก ขนาดอยู่ที่ 292.10 mm x 201.42 mm เท่าเดิม แต่ความบาง ลดมาเหลือเพียง 8.45 mm ทำให้เวลาจับเพื่ออ่านบทความหรือดูเว็บไซต์ในแนวตั้งและแนวนอน มีความถนัดมือมากยิ่งขึ้น ส่วนน้ำหนักอยู่ที่ 766 กรัม ไม่ได้เบาค่ะ ถือมือเดียวนานๆ อาจจะไม่เหมาะนัก

SCREEN

4

หน้าจอขนาด 12.3 นิ้ว ความละเอียด 2736 x 1824 (267 ppi) ใหญ่และชัดสะใจมากๆ ไม่ว่าจะเป็นการเล่นในลักษณะ Tablet หรือจะเป็นการแปลงร่างเป็น PC ก็ตาม หน้าจอแบบสัมผัส มัลติทัช 10 จุด ที่เราสามารถกดลงไปในจอให้บุ๋มเล็กน้อย ทำให้เวลาเราแตะที่ไอคอนหรือเมนูไหน อาจจะต้องใช้น้ำหนักนิดนึงค่ะ จอแจ่มแบบนี้ ดูซีรีย์ฟินแบบยาวๆ เลยค่ะ ใครที่เล่น iPad Pro หรือ Surface Pro 3 แล้วปวดหัว ตัวนี้ไม่เป็นแล้วนะคะ สบายตา ดีใจสุดๆ

WINDOWS

5

หลังจากที่หันไปใช้งาน Mac เป็นเครื่องหลักมาหลายปี จะมีการใช้งาน Windows แต่ที่ทำงานเท่านั้น (ซึ่งเป็น Windows 7 และปรับแต่งหรือลงโปรแกรมไม่ได้เลย) ในใจได้แต่คิดว่า “ชั้นจะไม่กลับไปใช้ Windows อีกแล้ว” แต่กับ Windows 10 ก็ทำให้มุมมองการใช้งานของอุ้มเปลี่ยนไปค่ะ เพราะบน Surface Pro 4 เป็นการทำงานแบบ 2 in 1 ของแท้ สามารถลงแอพจาก STORE หรือลงไฟล์ .exe ก็ได้เช่นกันค่า ทีนี้อยากลงแอพอะไร ก็ลงได้อย่างอิสระ

สิ่งที่อุ้มชอบอีกอย่าง คือความสมูธค่ะสามารถใช้งานได้อย่างลื่นไหลจริงๆ ยังไม่พบอาการค้างกระตุกให้หงุดหงิดใจ ขนาดว่าเป็นแค่ Core M ยังถือว่าใช้ได้ ซึ่งจริงๆการใช้งานของ Windows 10 ถูกออกแบบมาสำหรับใช้งานแบบ Desktop แต่ก็ยังสัมผัสได้ดีนะคะ แม้ว่าแต่ละปุ่มต่างๆ อาจจะเล็กไปหน่อย อุ้มเองก็แอบไปปรับแต่งให้ขนาดหน้าจอเป็น 250% จะได้ไม่ต้องเพ่งเยอะมาก สบายขึ้นหน่อยนะคะ

แต่ปัญหากับบางแอพก็มีเช่นกัน เช่นการใช้งาน Chrome ที่ดูจะกินแบตมากกว่า Browser อื่นๆ บน Surface Pro และการใช้งานบางโปรแกรม ที่แถบเมนูจะแสดงผลเล็กมากๆ มากจนปวดตาเลยทีเดียว เช่น โปรแกรมในตระกูล Adobe ปัญหาดังกล่าว เกิดมาจากความละเอียดของหน้าจอที่สูงมากๆ นั่นเองค่ะ

KEYBOARD

Type Cover
พูดได้เลยว่า ชอบมากกกกกกกกกกก คุ้มค่ากับราคา 5,190 บาท (แพงมาก) ที่เสียไปค่ะ เพราะช่องว่างของแต่ละปุ่ม ทำให้อุ้มไม่ต้องเกร็งนิ้วเพื่อพิมพ์เหมือนบน Surface 3 และพิมพ์ได้แม่นยำเหมือนจริงกว่าบน Surface Pro 3 พูดได้เลยว่า นี่คือสิ่งที่ดีที่สุดของ Surface Pro 4 ค่ะ (แต่ใครใช้ Pro 3 จะซื้อไปใช้ด้วยกัน ก็ย่อมได้นะคะ)

งานอดิเรกคือการรีวิวของอุ้ม Type Cover อันนี้ ทำให้ชีวิตดีขึ้นมากๆ เพราะเราจะนึกเอาออกมาพิมพ์งานที่ไหน ก็สามารถทำได้ ไม่ต้องรอกลับมานั่งพิมพ์ที่บ้าน เทียบกับจังหวะการพิมพ์บน Macbook Air 11” อาจจะใกล้เคียงกันมาก โชคดีที่มากับไฟ Keyboard พิมพ์ตอนกลางคืน หรือในที่มืด ไม่ต้องรบกวนใครค่ะ

ส่วนที่มีการเปลี่ยนแปลงเพิ่มเติมคือ Track pad แบบกระจกที่มีขนาดใหญ่ เลื่อนง่ายกว่า Type Cover ของ Pro 3 และสะดวกในการใช้งานจริงมากขึ้น มากับน้ำหนัก 310 กรัม รวมกันโลนึงสวยๆ และสามารถต่อกับตัวเครื่องด้วยแถบแม่เหล็ก เท่าที่ลองก็แน่นดีค่ะ แต่ไม่ชอบตอนพับไปด้านหลังแล้วจับ มันแปลกๆ มือนะคะ

6

On Screen Keyboard
ตอนแรกที่ใช้งาน เป็น Keyboard ภาษาไทยแบบ 3 แถว ช็อคเลยค่ะ พิมพ์ยังไง ไปไม่เป็น แต่พอปรับกลับมาเป็น Full Keyboard เรียบร้อยแล้ว ก็สบายค่ะ พิมพ์ได้ดีกว่าเดิม เหมือน On Screen Keyboard ทั่วๆไป แต่ถามว่าถนัดมั้ย ต้องบอกเลยค่ะ ว่าไม่ถนัดเท่า Type Cover แน่ๆ

PEN

ยังดีนะคะ ที่ Microsoft ยังใจดี แถม Surface Pen มาให้ด้วย ซึ่งการเขียนก็สามารถจดได้อย่างเป็นธรรมชาติ เหมือนเขียนบนกระดาษ สามารถวางมือลงบนจอได้เลยทันที ที่ตัวปากกาจะมีปุ่มอยู่ 2 ปุ่มนะคะ คือ

  • ปุ่มด้านบน หากกด 1 ครั้ง จะเข้าสู่ One Note / กด 2 ครั้ง จะเป็นการ Screen Capture หน้าจอเข้าสู่ One Note หรือสามารถหันด้านบนเพื่อลบได้เลยทันที อันนี้เจ๋งมากๆ คิดไปคิดว่า อันไหนมันควรจะชื่อ PEN อันไหนควรเป็น Pencil ก็ไม่มั่นใจเหมือนกันนะคะ 555
  • ปุ่มด้านข้างที่แอบไว้ ถ้าไม่มาสังเกตุดู อาจจะแทบไม่เห็นปุ่มนี้เลยค่ะ เพราะจาก Surface Pen รุ่นก่อน ที่มีปุ่มกดอยู่ตรงด้านจับ ทำให้มือบังเอิญไปกดโดนตลอดเวลา ซึ่งในรุ่นนี้ จับยังไงก็ไม่โดนค่ะ เจ้าปุ่มนี้ จะทำหน้าที่เสมือนการคลิ๊กขวา แทนการกดที่ Touchpad ได้ค่ะ

7

ถ้าถามถึงประสบการณ์การเขียน อย่างที่บอกไปค่ะ เขียนได้เป็นธรรมชาติ ประกอบกับสัมผัสของหน้าจอ ที่มีความบุ๋มอยู่เล็กน้อย แรกๆ อาจจะตกใจนะคะ ว่าทำไมมันบุ๋มลงไปได้ แต่เขียนจนชิน แล้วก็จะเหมือนการเขียนบนกระดาษ A4 ธรรมดาค่ะ เจ้า Surface น่าสนใจตรงที่ มีโปรแกรมที่สามารถเขียนแล้วใช้ประโยชน์จริงๆ เช่น One Note หรือ Drawboard ที่สามารถเขียนบนไฟล์ PDF ได้ตรงๆเลย

หลายคนถามเรื่องการเขียนระหว่าง iPad Pro กับ Surface Pro 4 ต้องบอกว่า PEN และ Pencil มีดีคนละแบบค่ะ เจ้า Apple Pencil จะดีที่ความสมูธ ซึ่งเหมาะกับการวาดรูป แต่ PEN ออกแบบมาเพื่อการเขียนมากกว่าการวาดภาพค่ะ เพราะฉะนั้นตัดสินใจง่ายๆ

ถ้ากะเอามาใช้วาดรูปเป็นหลัก หรือวาดภาพผ่าน iOS Application => เลือกเลย iPad Pro + Apple Pencil
ถ้าเอามาใช้เรียนหรือจดงาน ต้องการเขียน Note ลงบน PDF => Surface Pro 4 + Surface Pen ใช้งานมันส์แน่ๆ ซึ่งเราสามารถใช้แทบแม่เหล็กด้านข้างปากกา ติดเข้ากับตัวเครื่องได้ทั้งฝั่งซ้ายและขวา ใครกลัวหลุดจะบอกว่า แน่นมาก แต่ก็กลัวหายอยู่ดี 555

PROGRAM

8

อย่างที่บอกไปค่ะ ว่าเราสามารถลงโปรแกรมได้เหมือนการใช้งาน Laptop ได้เลย อุ้มลองยกตัวอย่างแอพที่ใช้งานบ่อยๆ เช่น

Microsoft Office: ใช้งานได้ดี 100% จบข่าว

Photoshop CS6: ใช้งานได้ แต่เมนูเล็กมาก แทบต้องใช้แว่นขยาย หาทางปรับแล้วไม่ได้ค่ะ
*อัพเดท ลง Photoshop CC 2015 แล้ว ใช้งานได้ตามปกติ สบายใจแล้วค่า 555

Microsoft Edge: Web Browser ตัวใหม่ ที่ออกแบบมาเพื่อใช้งานกับหน้าจอแบบ Tablet ได้ค่อนข้างโอเค โดยเฉพาะการย่อขยายที่จะสมูธกว่า Browser ตัวอื่นๆ แต่ยังไงก็ตาม ยังรู้สึกว่าฉลาดไม่เท่าทั้ง Chrome และ Firefox ค่ะ

LINE: ใช้เวลาเข้าแอพ นานไปนิดนึงค่า คงต้องรอ LINE อัพเดทตัวใหม่กว่านี้

Facebook: เล่นใน Web Browser เถอะค่ะ 555

Flipboard: อ่านบทความได้สบายๆ แน่นอน

Camera: ต้องบอกว่า Camera เป็นโปรแกรมนึงของ Surface Pro 3 ที่น่าห่วงมาก เพราะไม่ Auto Focus พอมาใน Surface Pro 4 ก็ปรับความละเอียดเป็นกล้องหลัง 8 MP กล้องหน้า 5 MP และมี Auto Focus แล้วค่ะ ภาพที่ออกมา ก็พอถูไถ ไม่เน้นเนาะ

GAME

เราสามารถลงเกมจาก Store หรือลงเกมที่เป็นไฟล์ .exe ก็ได้นะคะ และถ้าใครอยากเล่นเกมใน Android ก็สามารถเล่นได้ ผ่านโปรแกรม BlueStacks 2 แล้วลงเกมที่ต้องการ แต่ปัญหาของ BlueStacks 2 ยังคงเป็นเรื่องการสูบแบตพอสมควรค่ะ ทำให้เครื่องร้อนอีกด้วย

9

Seven Knights: จากการทดลองเล่นเกม 7K จาก BlueStacks 2 ผลออกมาคือ สามารถเล่นได้นะคะ ภาพบน Core M3 อาจจะไม่สมูธเท่าการเล่นบนเครื่อง Android ทั่วไปค่ะ แต่ไม่ได้มีการกระตุกจนเล่นไม่ได้

สำหรับเกม Online ต่างๆ ไว้มีโอกาสแล้ว อุ้มจะลองให้อีกทีนะคะ เพราะว่าไม่สันทัดเท่าไหร่ ฮุๆๆ

10

CONNECTIVITY

ขอดูในส่วนของการเชื่อมต่อนะคะ เจ้า Surface Pro มี

รูเสียบ USB ปกติ 1 อัน  => สามารถต่อ USB ใดๆ ก็ได้ ตามปกติค่ะ
Mini Display Port => ต้องซื้อสายอื่นๆ มาเชื่อม เช่นสายต่อออก Projector สามารถ Present งานได้เลย
ช่องเสียบ Micro SD => สามารถเสียบ Micro SD ได้เลยที่ด้านหลัง บริเวณฝาพับ
ถือว่าครบครัน แม้ว่าช่องจะน้อยไปหน่อยนะคะ เท่าที่ใช้งานจริง ช่องเสียบ USB ยังไงก็ยังสำคัญมากๆ ในการโอนถ่ายข้อมูล

BATTERY

11

วันนี้ใช้เขียนรีวิว เปิดบ้างปิดบ้าง มาใช้ยาวๆ จริงๆคือตั้งแต่ บ่ายสองถึงตอนนี้ประมาณทุ่มนึง แบตเหลืออยู่ 15% ค่ะ ทำงานเอกสารก็ถือว่าพอไหว แต่ใจจริงอยากให้อยู่ยาวๆ กว่านี้ค่ะ เพราะที่ชาร์จมันไม่ค่อยเหมือนของชาวบ้าน ถ้าจะใช้ยาวๆ จริงๆ คงต้องเอาที่ชาร์จมาด้วยนะคะ

PRICE

สิ่งที่บอกว่า เจ็บแต่จบที่สุด คงไม่พ้นเรื่องราคาค่ะ อุ้มตัดใจจากเจ้า Pro 4 ไปหลายรอบแล้ว แต่ก็อดใจไปแอบดูอยู่เรื่อยๆไม่ได้ จนซื้อ Pro 3 มาลอง แต่มีอาการปวดตา ปวดหัว แต่กับ Pro 4 กลับไม่เป็น ไหนๆ ก็หลงรักไปแล้ว จัดมาครบชุด

Surface Pro 4 Core M3 4GB 128GB ราคา 33,900 บาท

Type Cover ราคา 5,190 บาท ได้ส่วนลด 10% เหลือ 4,671 บาท

รวมทั้งสิ้น 38,571 บาท เหมือนซื้อคอมอีกเครื่องเลยทีเดียวนะคะ T_________________T

CONCLUSION

Microsoft กำลังมาได้ถูกทางนะคะ สามารถทำ Tablet ที่เป็นมากกว่า Tablet ทีใช้งานในชีวิตจริงได้ดี ประจวบเหมาะกับความเป็น Windows 10 ที่ค่อนข้างสมบูรณ์ ทำให้การใช้งาน Surface Pro 4 สามารถทำได้ทั้งงานจริงๆ งานอดิเรก งานจดบันทึก โดยเฉพาะงานที่ต้องทำนอกสถานที่

มี Macbook Air อยู่แล้ว จะซื้อทำไม?

สำหรับอุ้ม ที่ใช้งาน Macbook Air เป็นเครื่องหลักอยู่แล้ว ตอนแรกก็ค่อนข้างกลัวค่ะ ว่าจะเป็นการใช้งานที่ซ้ำซ้อน แต่ปัญหาใหญ่ๆสำหรับ Mac อาจจะเป็นเรื่องงานเอกสาร Word หรือ Powerpoint ไม่เคยตรงกับชาวบ้านเค้า ส่วน Bootcamp ก็ไม่ได้อยากจะลงนะคะ ที่สำคัญ เราไม่สามารถถอดจอ Mac มาเล่นอ่านข่าวก่อนนอนได้แน่ๆ แต่ก็ยังจำเป็นต้องเก็บ Mac ไว้นะคะ เพราะต้องตัดต่อคลิปอยู่ดี ฮุๆๆ

เทียบกับ iPad Pro?

iPad Pro เป็น Tablet ที่น่าสนใจจาก Apple ตามที่เคยรีวิวไปเมื่อคราวที่แล้ว แต่เป็น Tablet ที่ไม่เหมาะกับการใช้งานของอุ้มค่ะ เพราะเป็นคนไม่ได้วาดรูปเลยค่ะ เกมก็จอใหญ่เกินไปจะถือเล่น และ Smart Keyboard ก็ไม่มีภาษาไทย ทำให้ตัดสินใจขายไป ถ้าเทียบระหว่าง iPad Pro กับ Surface Pro 4 ขอให้ไปลองเล่นทั้งคู่ดูด้วยตัวเองก่อนนะคะ และลองลิสต์ดูว่า ใช้มันทำอะไรบ้าง ลองยกด้วยมือเดียวดูว่าถือถนัดมั้ย ใช้ปากกาลองเขียนดู หรือจำเป็นต้องต่อกับ USB มั้ย ต่อออก Projector รึเปล่า? นั่นละค่ะ จะเป็นคำตอบที่ถูกต้องที่สุด เพราะราคาทั้งสองตัว ไม่เบาเลยจริงๆ

เทียบกับ Surface Pro 3

สิ่งที่อุ้มชอบใน Surface Pro 4 รุ่น Core M3 คือ การดีไซน์แบบ Fanless ที่ไม่มีพัดลม เพราะตอนอุ้มใช้ Pro 3 i5 สิ่งนึงที่ไม่ค่อยชอบคือเสียงพัดลมค่ะ แต่ถ้าถามว่ามีความแตกต่างกันเยอะมั้ย นึกเร็วๆ คงจะเป็น

– ขนาดจอ และความละเอียด จอชัดขึ้น แต่แสบตาน้อยลง
– กล้องที่มี Auto Focus แล้ว
– แบตเตอรี่ ที่ดีจะจัดการตัวเองได้ดีกว่า เครื่องไม่ร้อน
– ปากกาและการเขียนที่ดีกว่า ตามมือกว่า เหมือนเขียนบนกระดาษกว่า
– Type Cover แต่อันนี้ซื้อเพิ่มได้

นึกออกประมาณนี้ค่ะ อย่างที่ต่าง ก็จะต่างขึ้นเยอะนะคะ ที่เหลือก็คงจะแล้วแต่สเปคที่เราเลือกค่ะ ว่าใช้งานมันหนักหนาสาหัสแค่ไหน

12

สำหรับอุ้ม เจ้า Surface Pro 4 ขึ้นแท่นเป็น Tablet ที่อุ้มชอบมากที่สุดตั้งแต่ใช้มา แม้ว่าจะไม่มีช่องใส่ซิม หรือยังมีน้ำหนักที่มากพอสมควรอยู่ แต่ถ้าเทียบกับการแบก Laptop ของออฟฟิต เดินไปประชุมในที่ต่างๆ เจ้า Pro 4 ก็สามารถตอบโจทย์ได้ดีกว่า สามารถเขียนคอมเม้นงานได้สะใจ จดบันทึกแผนการท่องเที่ยว เอาไปเขียนรีวิวนอกสถานที่ ตอบโจทย์การใช้งานของอุ้มในตอนนี้ ยังไงก็ขอฝาก +++ รีวิว Surface Pro 4 แบบจัดเต็ม +++ Notebook ในร่าง Tablet ไว้ด้วยนะคะ

13

 

Comments

comments