กลับมาจากญี่ปุ่นได้สองวัน เป็นทริปที่เดินขาลาก แต่สนุกมากกก อยากจะบันทึกการเดินทาง และทำ รีวิว Tokyo & Kawaguchiko แบบไปตามง่ายๆ ไว้ให้อ่านนะคะ จริงๆ เอาไว้เตือนความจำตัวเอง ในการไปญี่ปุ่นครั้งหน้าด้วยค่ะ จริงๆแล้ว อุ้มไปญี่ปุ่นเป็นครั้งที่ 3 แล้ว แต่ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เที่ยวเองแบบเต็มๆเลย เดินไปเที่ยวทั้งหมด 6 วัน 5 คืน (19-26 ตุลา 59 แต่ได้เที่ยวจริงๆ 20-26 ตุลา) ไปติดตามกันได้เลยค่า

รูปเยอะมากๆ และแต่ละจุดจะมีพิกัด Google maps บอกนะคะ

Day1 [Lake Kawaguchiko]

img_0704

• ถึงสนามบินนาริตะ Terminal 2 ให้เดินมาตามป้าย Railway หรือรูปโลโก้รถไฟนะคะ เมื่อเดินลงบันไดเลื่อนมา จะเจอ Counter ให้ไปซื้อตั๋วนั่ง NEX เข้ามาชินจูกุ หลับได้เลย เอาอาหารขึ้นไปกินได้นะคะ

img_0707
• ถึงชินจูกุแล้ว ให้เดินมาทาง New South West Exit เพื่อขึ้นไปข้างบนก่อน จะได้ไม่งงนะคะ
• พอขึ้นมาแล้ว จะเจอกับ Locker ฝากกระเป๋า สามารถฝากได้ตรงนั้นเลย วันละ 600 เยน ใบใหญ่ก็ฝากได้ ค้างคืนได้สูงสุด 3 วัน
• ถ้าจะขึ้นรถบัสมา Kawaguchiko เดินออกมาทางออก New South West  แล้วขึ้นมาชั้น 4 ได้เลย แต่เราไม่ได้จองรถมา ได้รอบบ่าย เลยเปลี่ยนใจไปรถไฟดีกว่า แนะนำว่าให้จองมาจากไทยเลยนะคะ ไม่งั้นรถเต็ม จะเป็นเหมือนอุ้ม
• ตัดสินใจไปซื้อข้าวกล่องหน้าตาดีกินรองท้อง เพราะหนทางอีกยาวไกลแน่ๆ

img_0711
• เดินเข้าไปซื้อตั๋วรถไฟ JR ที่ Tourist Information Center บอกเค้าว่าจะไป Kawaguchiko ซื้อแบบไม่ต้อง Reserved เก้าอี้ก็ได้นะคะ แต่ถ้ากลัวงง ก็ซื้อแบบจองที่นั่งไปเลย ง่ายดีค่ะ แต่แพงหน่อย คุณป้าจะแนะนำเราแบบละเอียดยิบ ซื้อตรงนี้จะได้ตั๋วไปถึง คาวาเลย ไม่ต้องซื้อเพิ่มแล้วนะคะ
• ไปลง Otsaki (1 ชม.) ต่อรถไฟป๋องแป๋ง เข้าไปที่ Lake (1 ชม.)
• ถึงคาวา รีบไปเอาแผนที่ และซื้อตั๋วรถ Retro Bus (2 วัน unlimited 1200 เยน)
• นั่งไปลงป้ายที่ 11 Ropeway ขึ้นไปดูวิว (800 เยน) พอลงจากรถบัส ให้หันหลังให้ทะเลสาบแล้วขึ้นบันไดมา ต่อคิวแป๊ปเดียว ก็จะได้ขึ้นมาชมวิวงามๆ ของ Kawaguchiko

DCIM100GOPROGOPR0110.JPG
DCIM100GOPROGOPR0110.JPG
DCIM100GOPROGOPR0095.JPG
DCIM100GOPROGOPR0095.JPG
DCIM100GOPROGOPR0115.JPG
DCIM100GOPROGOPR0115.JPG

777ab371-72f1-4714-958f-b80f60a4b141fd2cd4c1-f3a8-46a5-91cd-8c5ba06c5ace

DCIM100GOPROGOPR0116.JPG
DCIM100GOPROGOPR0116.JPG

• เชคอินที่พัก Weekend Shuffle ให้ลงป้าย 17 นะคะ เดินใกล้กว่า จริงๆ มันอยู่ระหว่างป้าย 17-18  เทปเป้ซังคือดีมาก ภาษาอังกฤษเป๊ะเว่อร์ คนไทยมาพักทั้งบ้านได้ บ้านสวยงาม ห้องนอนสบายสุดๆ เปิดหน้าต่างจากห้องเห็นฟูจิซังเลย [พิกัด https://goo.gl/maps/VtzJ1ypu52o ]

img_0756 img_0757 img_0761

DCIM100GOPROGOPR0128.JPG
DCIM100GOPROGOPR0128.JPG

• เทปเป้ แนะนำให้ไปกิน Hoto Fudo อาหารท้องถิ่น [พิกัด https://goo.gl/maps/wNghqKiUYdR2 ] เดินไปประมาณ 500 เมตร Hoto คือเส้นทำเอง แบนๆ เหนียวๆ ในชามจะใส่ผักทุกอย่างที่ปลูกแถวนี้ ไม่มีเนื้อสัตว์ พร้อมมิโซะซุป เลยต้องสั่งเครื่องในตุ๋นมิโซะมาด้วย เค้าให้สั่ง Hoto 1 ชาม/ 1 คน ร้อนมากกก กินมิโซะซุปเกือบหมด

6248c896-a2aa-4aa1-a29f-107c07964fb2 img_0765 img_0764
• ตอนขากลับมา เดินมืดมากกก นึกว่าจะแย่แล้ว 555

img_0767
• แช่มินิออนเซ็นที่ที่พักแบบ Private อากาศหนาวๆ แช่ๆสักหน่อย สบาย
• หลับแบบไม่รู้เรื่อง

Day2 [Kawaguchiko ~ Shinjuku]

• ตื่นเช้ามาพบว่าวันนี้ คุณเมฆกำลังจะปิดคุณฟูจิซังมิดแล้ว

img_0813
• ลงมาทานข้าวเช้า น้อยมากกก อันนี้ไม่ได้กินอะไรเลย หิวสุดๆ
• วิ่งข้ามถนน ไปถ่ายรูป ฟูจิซังแบบมีเมฆโอบไว้ สวยไปอีกแบบ

snapseed
• เดินไป Music Forest ความเจ๋งสุดคือ การแสดง Automatic Organ บรรยากาศเหมือนอยู่ในบ้านยุโรปสมัยก่อน แต่เราเข้าสองคน รู้สึกหลอนๆ ดีแท้ 555

img_0833 img_0838
• นั่ง Retro Bus กลับมาจองตั๋วรถบัสที่ป้าย 1 เจ้ารถ Retro Bus มันนั่งแบบสวนกันได้นะคะ ไม่ต้องวนจนครบรอบค่า
• กินข้าวแกงกระหรี่ ฝั่งตรงข้าม กับไอติมในสถานี อร่อยดี

img_0857
• นั่งรถบัสเข้าเมืองมา 2 ชม เป๊ะ หลับไม่รู้เรื่องเลย มาถึงสถานีชินจูกุพอดี
• ไปเอากระเป๋า และซื้อบัตร Suica จากตู้เลย กดง่ายๆ ให้กดเปลี่ยนภาษาภาษาอังกฤษ แล้วเลือกที่ New Purchase เลือกเป็นแบบ 1000 เยนก็ได้ค่ะ (หักค่าบัตร 500 เยน) แล้วนั่งไปสถานี Higachi Shinjuku
• จองที่พัก Airbnb ของ Alex ไว้ เริ่ดอยู่ เป็นอพาร์ทเมนท์ 1 ห้อง มีทุกอย่าง อยู่ห่างจากชินจูกุ 1 สถานี ห่างสถานี Higachi Shinjuku 200 เมตร ออกทางออก 1 มีบันไดเลื่อนด้วย [ทางไปจอง https://th.airbnb.com/rooms/8695946 ]

img_1004 img_1005 img_1006
• นั่งกลับไปกิน บุฟเฟ่ต์ปิ้งย่างชื่อ Rokkusen อร่อยเป็นบ้า เนื้อเบอร์ 2 คือนิ่มมากกกกกกกกก ละลายในปากทุกคำ มีซีฟู้ดด้วย ปูแกะ กุ้งแกะ หอยเชลล์ แอบ Walk in ตอน 4 โมง เลยไม่ต้องรอคิว [พิกัด https://goo.gl/maps/YMCYV8cBi4p]

img_0868 img_0871 img_0872 img_0873 img_0874 img_0875
• ตะลุยร้านแบรนด์เนมมือสอง ราคาขึ้นตามค่าเงิน เลยได้แต่เดินผ่านๆ
• เดินอยู่ใน Bic Camera นานอยู่ มันส์เบย แต่เคส iPhone 7 Plus น้อยจังงง
• จับตุ๊กตาได้ตัวใหญ่มาสามตัว หมดไป 5000 เยน ดีใจได้ใหญ่กว่าคราวที่แล้วอีก
• เหล้าบ๊วยปิดท้ายวัน หลงยันขากลับ 555

Day3 [ฮาราจูกุ ~ ชิบูย่า ~ อากิฮาบาร่า]

• ตื่นเช้ามานั่งใต้ดิน ไปขึ้นที่ Meiji-jingumae
• ไปกินราเมงเจ้าดัง Kyuhu Jangara Ramen ง่ายๆ เดินออกมาจากใต้ดินแล้วข้ามถนนไป ผ่านทาง Gap เลี้ยวซ้าย เดินไปหน่อยนึง กินเกือบหมดชามเลย หิว [พิกัด https://goo.gl/maps/BAjHTy16q5F2]

img_0925
• เดินย้อนกลับมาหลังสถานี จะเจอกับประตูไม้ใหญ่มากกกกกกก [พิกัด https://goo.gl/maps/64eBh3vUR3P2] และนี่ละ จุดเริ่มต้น แค่จุดเริ่มต้นขอย้ำ เดินเข้าไป ศาลเจ้าเมจิประมาณโลนึง ร่มรื่นและเย็นมากๆ แต่เดินไกลจริงๆๆ เข้าไปก็มีให้เขียนขอพรเล็กน้อย

DCIM100GOPROGOPR0162.JPG
DCIM100GOPROGOPR0162.JPG
DCIM100GOPROGOPR0167.JPG
DCIM100GOPROGOPR0167.JPG
DCIM100GOPROGOPR0173.JPG
DCIM100GOPROGOPR0173.JPG

• กลับมาเดินถนน Harajuku & Takeshita มีตรอกนึงบันเทิงมาก ได้เห็นรองเท้ารุ่น Limited ทั้งหมดที่อยากเห็นเลย

img_0953img_0955img_0957
• โดน Nike มาคู่นึง สีแปลกตาดี
• ไปต่อที่ชิบูย่า เดินเล่นอย่างมันส์ มี Apple Store / Atmos / Onitsuka Tiger / Tokyu Hand และอื่นๆอีกมากมาย

img_0959
• วิ่งเอา 200 เยนสุดท้ายไปคีบชิโร่ ดันได้ ช็อตที่หมุนลงมาคีบตรงตัวกับตูด นี่คือคิดว่าไม่ได้แน่ๆ !!! ตอนได้คิดในใจ เอากลับยังไง
• กินร้านเด็ด Midori Sushi เด็ดมากจนรอคิว ชม ครึ่ง (พักขาพอดี) รอไปลุ้นไป เข้าไปปุ๊ป ติดใจมันปูเป็นบ้าาาาาาา กินคนเดียว 2 ถ้วยใหญ่ ซูชิสดมากกกก สั่งเซ็ตใหญ่ หมดไป ไม่ถึงสองพันบาท ผ่านๆๆ  [พิกัด https://goo.gl/maps/BS35GrSMf3T2 ชั้น 4 ห้าง Shibuya Mark City]

img_0961 img_0966 img_0967 img_0968 img_0970 img_0972 img_0973 img_0974 img_0975 img_0976 img_0977
• ไปเดินย่อยต่อที่ Akihabara บอกเลยว่าอยากมาที่สุดในทุกย่าน แต่ค่ำนี้มาเดินดูทางก่อน นั่ง JR มากจากชิบูย่า 13 สถานี 555 สบายๆ เดินออกมาเข้า Yodabashi Akiba ได้เลย เดินตึกเดียว ฟินๆๆๆ

img_0979
• กลับบ้านนอน เริ่มไม่หลงแล้ว แต่พรุ่งนี้ย้ายที่นอน 555

Day4 [อาซากุซะ ~ Skytree ~ Ueno]

• ขนข้าวของมาอยู่ Ueno Touganeya [พิกัด https://goo.gl/maps/PEjWmXaPMHs] โรงแรมติดบันไดเลื่อน เดินออกมาจาก JR หรือ Metro แล้วจะขึ้นทางเชื่อมที่เหมือนสะพานลอย ให้หันหลังเข้าห้าง Arte แล้วเดินตรงมาเรื่อยๆ จะเจอบันไดเลื่อน ลงมาเลย แยกแรกเลี้ยวขวา คนไทยเพียบ เดินทางสะดวก แนะนำๆ

img_1008 img_1009
img_1083

• วันนี้ตั้งใจจะไปวัดเซนโซจิ ฝากกระเป๋าเสร็จ ก็นั่งใต้ดินมาขึ้นที่สถานีAsakusa เดินออกมา เลี้ยวขวาตามฝูงชนเยอะแยะมากมาย ไปถึงประตูแรกของวัด [พิกัด https://goo.gl/maps/LHeStFVjQXS2]

e1c7422d-f9a2-4390-abe2-100475c956d9
• เดินช้อปได้ตลอดทางจนถึงด้านใน (พวกขนมแพง ไม่แนะนำให้ซื้อตรงนี้)

 

DCIM100GOPROGOPR0195.JPG
• ทำพิธีขอพร ตามธรรมเนียม
• และแล้วก็เจอมันปูเดือดที่อยากกิน ขอลองสักฝา อร่อยมากกก ชื่อร้านว่า Isomaru Suisan สาขา Asakusa (จริงๆ สาขามันเยอะมากกก) ต้องลองจริงๆๆๆ กับปลาย่างก็อร่อยมากกก [พิกัด https://goo.gl/maps/rrVE75gfBgQ2]

img_1071 img_1072 img_1076
• นั่งใต้ดินสาย Ginza ไปลงที่ Skytree เดินเพลินๆ วนๆ มีหลายๆ ชั้น ทั้ง Pokemon Center / Kitty / Rilakkuma / และช้อปต่างๆ เก๋ไก๋ เดินเย็นๆ ได้ทั้งบ่าย

img_1077
• ชิมข้าวหน้าปลาไหลเจ้าอร่อย Bincho ชั้น 6 ที่ Tokyo Skytree อร่อยนุ่ม หนังกรอบบบ [พิกัด https://goo.gl/maps/5nf8fp1ccqP2]

img_1082 img_1081
• กลับมาเดินเล่นที่ตลาด Ameyoko นี่ตอนแรกคิดว่ามันปิดเร็ว จริงๆสัก 2 ทุ่มก็ทยอยปิดแล้ว
• นั่งกินเหล้าบ๊วยที่ Isomaru Suisan สาขา Ueno

img_1074

Day5 [Ginza ~ Shibuya ~ Ueno]

• ตื่นมาอยากซดอะไรร้อนๆ ตรงไปเที่ยวย่าน Ginza กันดีกว่า ไม่น่าเชื่อว่าจะอยู่ที่ Ginza ตั้งแต่เช้าจรดเย็น
• กิน Ippudo Ramen ตรงสาขา Ginza อร่อยๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ชอบมากๆ ทั้งราเมน ทั้งข้าว ทั้งชาชู เข้ามาร้านคนแรก แป๊ปเดียวร้านเต็มเลย [พิกัด https://goo.gl/maps/QWSJjsKJqGB2]

img_1133 img_1134
• เดินเล่นกันที่ตึกช้อปปิ้งต่างๆ เดินง่ายๆ ยาวทั้งบล๊อค
• Apple Store ที่นี่เป็นสาขาแรกที่อยู่นอกอเมริกา และเป็นสาขาที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น มีทั้งหมด 8ชั้น และลิฟท์ไม่มีที่กด 555 กะจะมาซื้อ Apple Watch 2 สักหน่อย ของดันหมด

img_1135 img_1139
• ไปทานขนมหวานร้านดังที่ Qui Fait Bon อร่อยดี ทานกับชาร้อนๆ ต้นตำรับ [พิกัด https://goo.gl/maps/ruT9nCmDQ8y]

img_1156 img_1155
• มีร้านขายของเล่น 4 ชั้น Hakuhinkan Toy Park มีทุกอย่างเลย เดินผ่าน GU และ Uniqlo มาเรื่อยๆ จนสุด อยู่ทางขวา เดินเพลินนน แนะนำให้มาดูของเล่นเลย ครบๆ [พิกัด https://goo.gl/maps/vVVzexoQrJk]
• ร้านขายกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ ใบละ 1,500 บาท !!! จัดมาสิ
• ไปต่อที่ย่าน Shibuya วันนั้นยังเดินไม่มันส์ คราวนี้เลยเดินหมดทั้ง Adidas / Apple Store / ดองกิโฮเต้
• ขึ้นไปถ่ายรูปที่ Starbucks ห้าแยก โดนฝรั่งแย่งที่นั่งริมหน้าต่าง

img_1177
• เดินข้ามถนนไปมา 5 รอบได้ เพื่อถ่ายรูปกลาง 5 แยก
• กลับมาที่ Ueno กินซูชิหน้าล้นที่ร้าน Miuramisaki Kau เดินมาซอยที่ Uniqlo อยู่ทางขวา และร้านของเล่นอยู่ทางซ้าย ก็จะเจอร้านนี้อยู่ทางขวา เป็นอีกร้านที่อยากแนะนำ เพราะซูชิหน้าล้นมาก วิธีการสั่งคือ บอกตัวเลขให้เชฟ เชฟจะปั้นและยื่นมาให้ หรือว่าหยิบที่สายพานก็ได้ [พิกัด https://goo.gl/maps/PWCX6AuwiN42]

img_1196 img_1197 img_1198 img_1199 img_1200 img_1201 img_1202 img_1203 img_1204 img_1205
• ไม่เข้มข้น เราไม่นอน คืนสุดท้ายแล้ว ไม่อยากนอน เดินไปต่อที่ ดองกิโฮเต้ สาขา Ueno ไกลพอควร แต่เดินเย็นๆ คนญี่ปุ่นขี้เมาเป็นล้านเลย [พิกัด https://goo.gl/maps/7MeGTa4uTQo]
• ได้นาฬิกา Seiko มา 1 เรือน แถมกระเป๋า Anello เหลือใบละ 1000 บาท แม้เจ้า ไม่ได้ซื้อ 555 เพราะว่ากระเป๋าไม่ไหวละ
• เดินกลับมาดริ้งต่อที่ Isomaru Suisan อีกสาขาใน Ueno คืออิร้านมันปูเผา มี 5 ร้านใน Ueno เปิด 24 ชม. ดึกๆ บันไดเลื่อนปิดหมดละ

Day6 [ตลาด Ameyoko ~ ตึกม่วง ~ ไปนาริตะ ~ กลับบ้าน]

• วันสุดท้ายแล้ว TT เก็บกระเป๋ามา check out ที่ counter รู้สึก Panic มาก เพราะตุ๊กตา 8 ตัวอัดกันในกระเป๋า สรุปน้ำหนักยังไม่เกิน อารมณ์ดีละ ช้อปต่อ
• คุณป้าที่โรงแรม บอกทางไปขึ้น Keisei Skyliner เพื่อความชัวร์ เราจะซ้อมการเดินทาง โดยเดินไปจองตั๋วรถไฟก่อน กันพลาด คุณป้าบอกว่าเดินไปประมาณ 10-15 นาที [พิกัด https://goo.gl/maps/NPRW2vi1HMs]
• เอาละ ใครที่นอน Ueno Touganeya ฟังทางนี้ ไม่มีใครเคยบอกเราว่ามันไปทางไหน 555 วิธีการไปคือ เดินออกมาจากโรงแรม เลี้ยวขวา / เจอแยก เลี้ยวซ้าย จะเจอบันไดเลื่อน ไม่ต้องขึ้น / เจอแยก เลี้ยวซ้าย จะเจอลิฟท์ ให้กดลงไปชั้นล่าง / ออกมาจากลิฟท์ เลี้ยวซ้าย / เดินตรงมาเรื่อยๆ จะเจอป้ายทางไป Keisei เดินตามป้ายเลย จะเจอทางเชื่อมไปสถานี / เดินไปประมาณ 200 เมตร จะเจอลิฟท์สั้นๆ กดขึ้นไปด้านบน ไปซื้อตั๋วรอบที่ต้องการได้เล
• เดินขึ้นมาแว่บๆ ที่ Ueno Park ท่าจะไม่เข้าแนว ไปต่อดีกว่า 555
• ไปที่ตลาด Ameyoko ตอนกลางวันบ้าง มีพวกตลาดปลา ขายพวกข้าวหน้าต่างๆ คือราคาดีมาก และอร่อยมาก Uni งานดี ลองชิมไปเรื่อยๆ

img_1226 img_1225 img_1224
• เดินไปตึกม่วงสุดฮิตคนไทย ได้ขนมกลับมานิดหน่อย ส่วนตัวชอบดองกิโฮเต้มากกว่
• ในที่สุดก็เจอ Sukiyaki !!! เดินหามาทั้งวัน อยากจะกินก่อนกลับมากกก ชื่อร้าน Kisoji อยู่ถนนเส้นเดียวกับตึกม่วง เดินมาเรื่อยๆ อยู่ก่อนถึง daikokuya เป็นสุกี้ยากี้ที่จะจดจำรสชาติตลอดไป เริ่มจากการสั่งแบบฟังกันไม่รู้เรื่อง รู้แต่ว่าชุดเนื้อลด 50% สั่งแบบเติมเนื้อมาเลย เพราะร้านจะปิดตอนกลางวันแล้ว พออาหารมาถึง คุณป้าชาวญี่ปุ่นสุดน่ารัก ก็มาทำให้ เนื้อละลายแบบ ละลายเลย หอม อร่อย สุดๆ ถ้ามีเวลาจะสั่งอีก แพงเหมือนกัน แต่อร่อยๆๆ มากกก [พิกัด https://goo.gl/maps/JY8qhPi3Dsn]

img_1230 img_1231 img_1238 img_1239
• จัด Tag Heuer มาอย่างไม่คาดคิด ได้ราคามาดีมาก จนพี่ร้านนาฬิกาที่รู้จักยังบอกว่า จัดเถอะๆ
• วิ่งกลับมาที่ที่พักอย่างด่วนๆ เหลือแค่ 20 นาที รถไฟจะออกแล้นนนน
• ยัดของ ขอยืมที่ชั่งคุณป้า และวิ่งออกไป เข้าใจแล้วว่าทำไมไม่มีใครทำรีวิวขากลับ 555
• วิ่งขนกระเป๋า 2 ใบ อย่างหนัก ลากกกกกกกด้วยความไวสูง ตามทางที่เล่าไปข้างบน ถึงก่อนรถไฟออกแค่ 5 นาที โอเคเกือบตกรถไฟ หอบแฮกๆๆ
• Keisei Skyliner วิ่งไวมากกก แค่ 41 นาที ก็ถึง Narita Terminal 2 เลย
• อย่าลืมเอาของไว้บนรถเข็น รถเข็นที่นี่ Design ให้สามารถขึ้นบันไดเลื่อนธรรมดาได้ นี่ละความฉลาดของคนญี่ปุ่น
• ไป Check in ที่ Counter N แนะนำให้ Online Check in มา ไม่งั้นแถวยาวแน่ๆ
• เข้ามาซื้อขนมที่ด้านในเกต แย่งกับคนไทยเหมือนเดิม (ไม่เข้าใจ ทำไมต้องแย่งกันเนาะ555)
• กลับบ้านแล้วจ้า ราตรีสวัสดิ์โตเกียว หิวข้าววว แล้วจะมาหาใหม่น้า พาเด็กสัญชาติญี่ปุ่นกลับมาตั้ง 8 หน่อ

img_1248

#มินิรีวิว การคีบตุ๊กตาที่ญี่ปุ่น มีทริคง่ายๆ ดังนี้

• พยายามเลือกตู้ที่ร้าน Taito Game Station จะคีบง่ายสุดนะคะ
• ตู้ที่เป็นแบบคีบตุ๊กตาเลย จะได้ไวสุด ถ้าเราจ่าย 500 เยน จะได้จับ 6 ครั้ง(แถม 1 ครั้ง)
• วิธีการคือพยายามเกี่ยวหู หรือเกี่ยวตรงก้นของตุ๊กตา เลือกพวกตัวกลมๆ จะจับได้ง่าย ที่ชินจูกุ จับได้ไวมาก แต่คนเยอะสุดๆ
• ถ้าอยากท้าทาย ลองตู้แบบแขวนห่วงตุ๊กตาไว้กับแท่นกลมๆ วิธีการคือต้องใช้ที่คีบดันด้านหลังห่วงให้ออกมาก่อน พอมันเอียง ค่อยมาเล็งด้านหน้า ดันด้านหน้าให้เอียงเหมือนกัน ทำไปเรื่อยๆ ประมาณ 10 ครั้ง ก็จะตกลงมา
• ถ้าเป็นแบบจับลงหลุม ให้เอาไม้คีบดันให้ตกลงไป หรือถ้าคิดว่าไม่ได้แน่ๆ ให้ไปเรียกพนักงานมาขยับได้เลยทันที
• ไม่จับตุ๊กตาที่เอาขาเกี่ยวไม้ไว้โดยตรง เพราะจับยากมากก
• ลองเริ่มจากพวกตัวที่อุ้มจับได้ก่อน จะมีที่เกี่ยวให้ขึ้นมาได้ค่ะ

img_1254

Comments

comments