AIS PLAY เดินหน้าส่งมอบประสบการณ์คอนเทนต์กีฬาให้คนไทยได้รับชมอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะฟุตบอลไทย ที่วันนี้ AIS PLAY ยังคงเป็นศูนย์กลางการรับชมบอลไทยในฐานะแพลตฟอร์มหลักวงการฟุตบอลไทย ล่าสุดเตรียมถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลทีมชาติไทย 2 รายการใหญ่ ศึกแห่งศักดิ์ศรี ทั้งการแข่งขันชิงถ้วยพระราชทาน “คิงส์คัพ” ครั้งที่ 49 และฟุตบอลชิงแชมป์เอเชียอย่าง AFC U23 Asian Cup 2024 รอบคัดเลือก ที่ปีนี้ไทยร่วมเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน พร้อมชวนแฟนบอลชาวไทยร่วมส่งกำลังใจเชียร์ทัพช้างศึก ฟุตบอลทีมชาติไทย คว้าชัยในทุกการแข่งขัน แบบติดขอบจอ ชมฟรีทุกเครือข่ายบนแพลตฟอร์ม AIS PLAY ทุกช่องทาง

นางสาวรุ่งทิพย์ จารุศิริพิพัฒน์ และ อเล็กซานเดร มาโน่ โพลกิ้ง

นางสาวรุ่งทิพย์ จารุศิริพิพัฒน์ กรรมการผู้จัดการพันธมิตรธุรกิจด้านบันเทิงและคอนเทนต์ AIS กล่าวว่า “เพื่อเป็นการตอกย้ำเป้าความเป็นผู้นำการถ่ายทอดสดฟุตบอลไทย ที่ครบที่สุด มากที่สุด ในฐานะแพลตฟอร์มหลักวงการฟุตบอลไทย ทำให้เราเดินหน้าทำงานร่วมกับสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ นำสุดยอดรายการแข่งขันฟุตบอลทีมชาติไทยมาให้แฟนบอลได้รับชมกันอีกครั้งกับศึกการแข่งขันชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 49 และ การแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์เอเชียอย่าง AFC U23 Asian Cup 2024 รอบคัดเลือก โดยทั้งสองรายการถือเป็นรายการสำคัญของทีมชาติไทยที่แฟนบอลต่างตั้งตารอ เราขอเป็นส่วนหนึ่งในการเชื่อมต่อประสบการณ์การรับชม พร้อมส่งความสุขไปยังแฟนบอลทั่วประเทศให้ได้ร่วมเชียร์ทัพช้างศึก นักฟุตบอลทีมชาติไทย ชนิดติดขอบจอได้ฟรีผ่าน AIS PLAY”

สำหรับรายการฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน “คิงส์คัพครั้งที่ 49 จัดขึ้นที่ สนามกีฬาสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี จังหวัดเชียงใหม่ โดยมี 4 ชาติที่เข้าร่วมการแข่งขัน ประกอบด้วย ทีมชาติไทย, ทีมชาติอิรัก, ทีมชาติเลบานอน และทีมชาติอินเดีย งานนี้ทีมชาติไทยเตรียมแผนการแข่งขันอย่างเข้มข้น นำโดย อเล็กซานเดร มาโน่ โพลกิ้ง กุนซือคนสำคัญ แท็กทีมมาซาทาดะ อิชิอิ ประธานเทคนิค และมาดามแป้ง นวลพรรณ ล่ำซ่ำ ผู้จัดการทีม พร้อมโชว์ความมั่นใจคว้าแชมป์คิงส์คัพครั้งที่ 49 ได้อย่างแน่นอน โดยทีมชาติไทยจะประเดิมสนามนัดแรก วันที่ 7 กันยายน 2566 พบ เลบานอน เวลา 20.30 น. ส่วนโปรแกรมการแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน คิงส์ คัพ ครั้งที่ 49 มีดังนี้

  • วันที่ 7 กันยายน 2566 เวลา 17.30 น. อิรัก พบ อินเดีย และ เวลา 20.30 น. ทีมชาติไทย พบ เลบานอน
    รอบชิงอันดับ 3 วันที่ 10 กันยายน 2566 เวลา 17.30 น. ผู้แพ้คู่ที่ 1 พบ ผู้แพ้คู่ที่ 2
    รอบชิงชนะเลิศ วันที่ 10 กันยายน 2566 เวลา 20.30 น. ผู้ชนะคู่ที่ 1 พบ ผู้ชนะคู่ที่ 2
    ส่วนฟุตบอลทีมชาติไทย U23 รุ่นอายุไม่เกิน 23 เตรียมลงแข่งขันในรายการฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย 2024 หรือ เอเอฟซี U23 เอเชียน คัพ 2024 รอบคัดเลือก ปีนี้ประเทศไทยถูกเลือกอยู่ในโถที่ 1 เนื่องจากเป็นเจ้าภาพจัดแข่งขัน ร่วมกับ เวียดนาม, ญี่ปุ่น และ ออสเตรเลีย ที่อยู่ในโถแรกเช่นกัน สำหรับการแข่งขันรอบคัดเลือกจะแบ่งออกเป็น 11 กลุ่ม กลุ่มละ 4 ทีม เพื่อค้นหาแชมป์กลุ่มละ 1 ทีม และทีมอันดับสองที่ดีที่สุดอีก 4 ทีม เพื่อเข้าแข่งขันรอบสุดท้ายที่ประเทศกาตาร์ ซึ่งจะจัดการแข่งขันในช่วงวันที่ 15 เมษายน – 3 พฤษภาคม 2567 โดยโปรแกรมฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี รอบคัดเลือก ของทีมชาติไทย U23 มีดังนี้
  • วันพุธที่ 6 กันยายน 2566 เวลา 20.30น. ทีมชาติไทย พบ ฟิลิปปินส์ ที่สนามชลบุรี สเตเดียม
    วันเสาร์ที่ 9 กันยายน 2566 เวลา 20.30น. ทีมชาติบังคลาเทศ พบ ทีมชาติไทย ที่สนามชลบุรี สเตเดียม

  • วันอังคารที่ 12 กันยายน 2566 เวลา 20.30น. ทีมชาติไทย พบ ทีมชาติมาเลเซีย ที่สนามชลบุรี สเตเดียม
    แฟนบอลชาวไทย ร่วมส่งกำลังใจให้แก่นักกีฬาช้างศึกทีมชาติไทยทั้ง 2 ชุด ผ่านการถ่ายทอดสด ยิงตรงจากสนาม บน AIS PLAY ชมฟรีทุกเครือข่าย ในทุกช่องทาง ทั้งแอปพลิเคชัน, เว็บไซต์ https://aisplay.ais.co.th/portal/screen/SportsWeb/, กล่อง AIS PLAYBOX, SAMSUNG Smart TV, Android TV และ Apple TV

เกี่ยวกับ AIS

บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ AIS ผู้ให้บริการดิจิทัลบนโครงข่ายอัจฉริยะ 5G ที่มีคลื่นความถี่ในการให้บริการมากที่สุดรวม 1460 MHz (นับรวมคลื่นความถี่ที่ร่วมมือกับพันธมิตรรวมถึง NT ซึ่งอยู่ระหว่างการอนุมัติจาก กสทช.) และมีจำนวนผู้ใช้งานล่าสุดกว่า 45.3 ล้านเลขหมาย (ณ มิถุนายน 2566) พร้อมขับเคลื่อนประเทศไทยด้วยเทคโนโลยี 5G ผ่าน 4 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ โทรศัพท์เคลื่อนที่, อินเทอร์เน็ตบ้านความเร็วสูงภายใต้แบรนด์ AIS Fibre, ธุรกิจลูกค้าองค์กร และบริการดิจิทัล 5 ด้าน ได้แก่ วิดีโอ คลาวด์ ดิจิทัลเพย์เมนท์ อินเทอร์เน็ตในทุกสิ่ง (IoT) และบริการร่วมกับพาร์ทเนอร์ตลอดจนขยายสู่กลุ่มธุรกิจใหม่ ทั้งหมดนี้เพื่อเดินหน้าตามวิสัยทัศน์การเป็นองค์กรโทรคมนาคมเทคโนโลยีอัจฉริยะ หรือ Cognitive Tech-Co ที่พร้อมนำศักยภาพเข้าสนับสนุนความแข็งแกร่งด้านโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลของประเทศขยายขีดความสามารถของภาคอุตสาหกรรม และยกระดับ คุณภาพชีวิตของคนไทยไปพร้อมกัน พบกับเราได้ที่ www.ais.th

Comments

comments