หลายคนอาจจะมีความคิดว่า หูฟังที่ดีควรมีราคาแพง ยิ่งแพงก็ยิ่งคุณภาพดี เสียงดี และเมื่อได้ไปเจอหูฟังราคาถูก ๆ ที่วางขายอยู่ตามร้านสะดวกซื้ออย่าง 7-Eleven ที่มีราคาเพียง 100-200 บาท ก็คงจะแอบคิดว่า มันจะดีเหรอ ราคาแค่เนี้ยะะะ เสียงจะเป็นยังไงนะ จะก๊องแก๊งรึเปล่า วันนี้เราก็เลยขอท้าพิสูจน์ด้วยการนำหูฟังยี่ห้อ Rizz ที่ขายใน 7-Eleven ราคา 199 มาทดสอบกัน ว่าคุณภาพจะเป็นยังไง เสียงดีรึเปล่ากันนะคะ

สำหรับหูฟัง Rizz ที่เราได้นำมาลองกันจะมี 2 รุ่น คือ RE-801 และ RE-410 ซึ่งดูจากดีไซน์กล่องแพ็กเกจแล้วก็ถือว่าดูดีทันสมัยใช้ได้เลยเลยทีเดียว โดยสองรุ่นนี้จะมีความแตกต่างกันหลัก ๆ คือ รุ่น RE-801 จะเป็นแบบ In-ear ส่วนรุ่น RE-410 จะเป็นแบบกึ่ง Ear-bud งั้นเรามาดูรุ่น RE-801 กันก่อนดีกว่าค่า

 

หูฟัง In-ear รุ่น RE-801

จุดเด่นของหูฟังรุ่น RE-801 คือ ตัวหูฟังจะเป็นเหล็ก ทำให้เสียงมีความคมชัดมากขึ้น พร้อมสายแบบเจลลี่เคลือบซิลิโคน สายจะออกแบนๆ หน่อย ซึ่งมีความแข็งแรงทนทาน ไม่ขาดง่าย แถมยังช่วยให้สายพันกันได้ยากกว่าปกติอีกด้วย เวลาจะหยิบมาใช้ก็ใช้ได้เลย ไม่ต้องมานั่งแก้สายพันกันให้หงุดหงิด ส่วนแจ็คจะเป็น 3.5 มม. รูปตัว L มีความแข็งแรงข้อต่อไม่หักง่าย ไม่เกะกะเวลาใช้งาน

ในกล่องจะมีจุกยางหูฟังให้เลือกเปลี่ยนได้อีก 3 ขนาด ใครที่ใช้แล้วรู้สึกว่าแน่นไปหรือหลวมไปก็ลองถอดเปลี่ยนดูได้ ให้เหมาะกับรูหูตัวเอง พร้อมกิ๊บเอาไว้ติดที่สายสำหรับหนีบเสื้อ ถ้าไม่ใช้ก็แกะออกได้ จะได้ไม่เกะกะ ดีไซน์โดยรวมถือว่าดูทันสมัยดี มีให้เลือกสองสีคือสีขาวกับน้ำเงิน สีจะต่างกันแค่ตรงหูฟังนะคะ แต่สายจะเป็นสีขาวเหมือนกัน

คุณภาพเสียงจากที่ลองฟังดู บอกได้อย่างเต็มปากเต็มคำว่าเสียงดีกว่าที่คิดสำหรับหูฟังราคาประมาณนี้ เสียงเบสค่อนข้างแน่นกว่ารุ่นอื่นๆ เมื่อเทียบกับหูฟัง In-ear ในราคาระดับเดียวกัน ยิ่งถ้าฟังเพลงแนวร็อคนี่ถือว่าได้อารมณ์ใช้ได้เลย แถมที่สายยังมีรีโมทเอาไว้ใช้ควบคุมเพลงได้อีกด้วย เช่น กดหนึ่งครั้งเพื่อหยุดหรือเล่นเพลง หรือกดย้ำสองครั้งเพื่อเลื่อนไปเพลงถัดไป และแน่นอนว่ามันเป็นไมค์ในตัว ใช้คุยโทรศัพท์ได้ เสียงคมชัด กดรับสายวางสายได้

 

หูฟัง Ear-bud รุ่น RE-410

เปลี่ยนมาดูรุ่น RE-410 กันบ้างนะคะ สำหรับรุ่นนี้ตัวหูฟังจะดีไซน์มาแบบ EarPods ซึ่งน่าจะเหมาะกับคนที่ไม่ค่อยชอบแบบ In-ear เพราะรุ่นนี้จะใส่สบายไม่อึดอัดรูปทรงเหมือน Ear Bud แต่ช่วยตัดเสียงรบกวนแบบ In-ear ซึ่งจากการที่ได้ลองใส่ดูก็รู้สึกว่าใส่สบายกว่าจริงๆ ไม่หลุดง่ายด้วย

ตัวสายของรุ่นนี้ไม่ได้เป็นสายแบบเจลลี่เหมือนกับรุ่น RE-801 ส่วนรีโมทและกิ๊บหนีบเสื้อนั้นมีมาให้เหมือนกันเลย ตัวหูฟังมีให้เลือกทั้งสีขาวและสีดำ สีเดียวกันทั้งสายและหูฟัง แจ็คเป็น 3.5 มม. รูปตัว L เหมือนกัน ใส่นอนเล่นได้สะดวก ขั้วสายไม่หักง่าย


คุณภาพเสียงเมื่อเทียบกับรุ่น RE-801 ที่เป็น In-ear แล้ว RE-410 เสียงจะดังกว่าเมื่อปรับวอลุ่มเท่ากัน เบสอยู่ในระดับใช้ได้ ถือว่าเสียงดีไม่แพ้ RE-801 เลยทีเดียว เสียงใสชัดเจนเหมาะสำหรับฟังเพลงทุกแนว โดยรวมแล้วถือว่าเสียงมาเกินราคาทั้งคู่เลย

แถมท้ายอีกนิด จะบอกว่าทาง Rizz เค้ามีรับประกัน 1 ปี เปลี่ยนใหม่ให้ทุกชิ้นด้วยนะคะ คือถ้าซื้อมาแล้วเสียหรือมีปัญหา ก็ติดต่อเคลมกับทางบริษัทได้เลยเน่อ ราคาแค่ 199 ก็ยังมีรับประกันให้อีกอ่ะ ได้ใจไปเต็มๆ เลยทีเดียว


อุ้มเคยมีปัญหาครั้งใหญ่กับการลืมหูฟังค่ะ เพราะจำเป็นจะต้องอัดรีวิว แต่ไม่ได้เอาหูฟังมาจากบ้าน รีบวิ่งไปเข้า 7-11 ได้หูฟังราคา 199 บาท ช่วยชีวิตเอาไว้ ทำให้มุมมองหูฟังเซเว่น เปลี่ยนไปตั้งแต่วันนั้น

โดยสำหรับเจ้า 2 ตัวนี้ อุ้มชอบตัวที่ 2 คือ RE 410 มากกว่า เพราะเป็นคนใช้หูฟัง In-ear ไม่ได้เลยค่ะ 555 ที่สำคัญคือ มันเหมือนหูฟัง iPhone มากๆ ใส่สบายๆ โดยที่ไม่ต้องกังวลว่าจะหลุดง่ายรึเปล่า สวยงามดูดี ในราคาแค่ 199 บาท อันนี้ผ่านเลยทีเดียว

สรุปว่าใครที่กำลังมองหาหูฟังราคาประหยัด แต่อยากได้เสียงดีๆ ก็ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ดีเลยทีเดียว แถมยังหาซื้อได้ง่ายอีกด้วย เดินออกจากบ้านไปไม่กี่ก้าว เข้า 7-Eleven แล้วเดินไปหยิบมาจ่ายเงินเลย สบายยยยย ส่วนจะซื้อรุ่นไหนดีคงเลือกไม่ยาก ถ้าชอบใส่สบาย ไม่ชอบ In-ear ก็จัดตัว RE-410 ไปเลย ส่วนใครชอบใช้ In-ear อยู่แล้ว ชอบเสียงเบสแน่นๆ และเบื่อปัญหาสายพันกัน RE-801 ก็น่าจะตอบโจทย์ได้ดีเลย ส่วนเรื่องคุณภาพเสียงถือว่าน่าพึงพอใจทั้งคู่ คุ้มค่าแน่นอนในราคา 199 บาท
สเปค RE-801
Driver Diameter/เส้นผ่านศูนย์กลางลำโพง : 9mm
Frequency/ตอบสนองความถี่ : 20Hz-20kHz
Impedance/ต้านทานไฟฟ้า : 16oHm±15%
Sensitivity/ความไวต่อการรับเสียง : 93±3dB
Input Plug Diameter/ลักษณะปลั๊ก : 3.5mm
Cord Lenght/ความยาวสาย : 1.2M
สเปค RE-410
Driver Diameter/เส้นผ่านศูนย์กลางลำโพง : 14.2mm
Frequency/ตอบสนองความถี่ : 20Hz-20kHz
Impedance/ต้านทานไฟฟ้า : 32oHm±15%
Sensitivity/ความไวต่อการรับเสียง : 105±3dB
Input Plug Diameter/ลักษณะปลั๊ก : 3.5mm
Cord Lenght/ความยาวสาย : 1.2M

Comments

comments